![Until The Ink Runs Dry [จนกว่าน้ำหมึกจะเหือดแห้ง]](https://fanfictionbook.net/img/nofanfic.jpg)
Autumn [ฤดูใบไม้ร่วง]
มัลฟอย,
ทนายความของนายนั้นแย่มาก
- เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์
***
แกรนเจอร์,
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงจ้างเขา
- D.M.
***
มัลฟอย,
ฉันต้องคุยกับเขา ตอนนี้ฉันทำอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นนายต้องช่วยฉัน ฉันต้องการคุยกับทนายความของนาย
- H.G.
***
แกรนเจอร์,
ฉันไม่เห็นความจำเป็นที่ฉันจะต้องใส่ใจเลยสักนิด.
***
มัลฟอย,
ฉันกำลังช่วยนายและคนอื่นๆ ที่ตกอยู่ในสถาณะการณ์เดียวกับนาย (เช่น ธีโอดอร์ น็อตต์ และแพนซี่ พาร์กินสัน เป็นต้น) ซึ่งฉันต้องพบกับทนายความของนายเพื่อเพิ่มคดีของนายเข้าไปในเอกสารคดีของฉัน ดังนั้นบอกเขาให้มาพบฉันด้วย
- เอช.จี
***
มัลฟอย,
ฉันจะไม่หยุดเขียน ดังนั้นนายควรตอบกลับฉันด้วย
- เอช.จี
***
มัลฟอย,
งานของฉันเป็นไปได้สวย ฉันช่วยน็อตต์กับพาร์กินสันออกมาได้แล้ว อย่างที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้ และตอนนี้ฉันก็ได้รับจดหมายติดต่อกับมิลลิเซนต์ บัลสโตรดแล้ว รู้ใช่ไหมว่าพวกนายส่วนใหญ่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เด็กเกินไปสำหรับสงครามนี้ และไม่ควรจะต้องเข้าไปอยู่ในอัซคาบัน ฉันกำลังพยายามช่วยให้นายได้รับการปล่อยตัว ขอร้องเถอะ ให้ฉันได้พูดคุยกับทนายความของนายนะ
- เฮอร์ไมโอนี่
***
แกรนเจอร์,
เธอตั้งใจจะเซ็นชื่อ "เฮอร์ไมโอนี่" ให้กับนักโทษคนสุดท้ายใช่ไหม ฉันคิดว่าคนอย่างเธอควรจะใส่ใจเรื่องความเสมอต้นเสมอปลายมากกว่านี้ ฉันผิดหวังจริงๆ
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
นั่นคือสิ่งที่นายได้รับจากจดหมายทั้งหมดที่ฉันส่งไปงั้นเหรอ? ทนายความของนายยังคงปฏิเสธที่จะพบฉัน ฉันแค่พยายามช่วยเท่านั้น
- เอช.จี
ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าลายเซ็นของฉันจะเกี่ยวข้องกับความเสมอต้นเสมอปลายได้ยังไง
***
แกรนเจอร์,
เธอเคยคิดไหมว่าบางทีฉันอาจไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเธอ?
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
ทำไมนายถึงปฏิเสธความช่วยเหลือ ตอนนี้นายอยู่ในอัซคาบันนะ การยอมรับความช่วยเหลือจากฉันไม่ใช่ผลดีต่อนายหรือไง
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
ฉันอยู่ในอัซคาบันงั้นเหรอ ฉันคิดว่าฉันกำลังเพลิดเพลินกับวันหยุดพักผ่อนที่เมืองมาร์เซย์
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
นายนี่น่าหงุดหงิดจริงๆ ความคิดที่จะได้ออกจากอัซคาบันไม่ได้ทำให้นายรู้สึกดีขึ้นบ้างเลยรึไง นายอยากจะอยู่ในนั้นตลอดไปมากกว่าที่จะเอาตัวเองออกมางั้นเหรอ?
- เอ.ชจี
***
เกรนเจอร์,
ความผิดพลาดของเธอคือการที่เชื่อว่าฉันยังมี 'ด้านที่ดีงาม' หลงเหลืออยู่
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
ฉันไม่ได้คิดไปเอง ฉันรู้ว่านายมีมัน ไม่เช่นนั้นนายคงฆ่าดัมเบิลดอร์ด้วยตัวเองไปแล้ว
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
บางทีฉันควรจะทำอย่างนั้น ถ้าเป็นแบบนั้นใครสักคนในหมู่พวกเธอคงฆ่าฉันเพราะเรื่องนี้ และฉันก็ไม่ต้องทนอ่านจดหมายอุปถัมภ์ของเธออีกต่อไป
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
นายยังคงทำตัวน่าโมโหเหมือนเดิม
เนื่องจากฉันไม่สามารถติดต่อทนายความของนายได้ ฉันจึงคิดว่าคงต้องบอกนายตรงๆ ฉันได้แนบรายละเอียดที่ครบถ้วนเกี่ยวกับวิธีที่ฉันทำงานเพื่อให้คนในวัยเดียวกันกับพวกเราพ้นโทษจากอัซคาบันไปด้วย พวกเราทุกคนยังไม่บรรลุนิติภาวะในช่วงสงคราม (หรืออย่างน้อยก็ในบางกรณี) การที่นายถูกจำคุกก็เป็นผลมาจากการกระทำที่เกี่ยวข้องกับพ่อแม่ของนาย ภายใต้การบังคับขู่เข็ญที่รุนแรง หรือภายใต้อิทธิพลของบุคคลที่มีอำนาจ ซึ่งถือเป็นความผิดทางอาญามากกว่าสิ่งอื่นใด
ขอร้อง กรุณาอ่านให้จบด้วย
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
เธอทำเรื่องน่าเบื่อหน่ายนี้อย่างไม่รู้จักจบจักสิ้นได้ยังไง?
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
ทำไมนายถึงยืนกรานที่จะทำให้เรื่องมันยากขนาดนี้?
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
ทนายความของฉันฉันเก่งมากและฉันก็จ่ายเงินให้เขาไปเยอะมาก ฉันไม่ต้องการเธอ
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
เทรซีย์ เดวิส พึ่งได้รับการปล่อยตัวด้วยความช่วยเหลือที่นายไม่ต้องการในตอนนี้
นายไม่อยากออกมาจากที่นั่นจริงๆเหรอ?
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
เดวิสเป็นเด็กตาขาวที่อาจจะไม่เคยยกไม้กายสิทธิ์แม้แต่ครั้งเดียวเพื่อรับใช้จอมมาร แน่นอนว่าการที่เขาถูกปล่อยตัวออกไปนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี ฉันรู้สึกไม่สบายใจที่เขาเข้ามาที่นี่ตั้งแต่แรก
ได้โปรดหยุดรบกวนฉันเสียที ฉันไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่เธอโปรดปราน และแน่นอนว่าฉันไม่อยากรู้สึกเป็นหนี้เธอไปตลอดชีวิต ฉันต้องการออกจากที่นี่ นั่นคือเหตุผลที่ฉันจ้างทนายความ
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
นี่ไม่ใช่ 'โครงการโปรด' แต่มันคืองานของฉัน โครงการโปรดของฉันจริงๆ คือการปฏิรูปวิธีการรักษาที่เซนต์มังโกปฏิบัติต่อผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บทางจิตใจหลังสงคราม ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะทำได้ดีขึ้นหากผสมผสานการบำบัดสุขภาพจิตแบบมักเกิ้ลเข้าไปด้วย ไม่ใช่ว่าฉันคิดว่านายจะสนใจ
อีกอย่างนายจะไม่ติดหนี้อะไรฉันทั้งนั้น แต่จะเป็นหนี้องค์กรที่ฉันทำงานให้ ซึ่งกำลังช่วยเหลือพวกนายเกือบทุกคนที่ติดอยู่ท่ามกลางกระแสการเมืองที่น่ารังเกียจนี้ด้วยเช่นกัน
นายคงรู้เรื่องนี้แล้ว ถ้านายได้อ่านบทสรุปที่ฉันส่งให้จริงๆ
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
แล้วทำไมถึงต้องเป็นเธอที่ช่วยฉัน ทำไมไม่เป็นเพื่อนร่วมงานของเธอคนอื่น?
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
ไม่มีใครอยากทำคดีของนาย
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
แล้วทำไมเธอถึงอยากทำ?
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
เพราะอย่างที่ฉันบอกนายไป ฉันเชื่อว่าการที่นายติดอยู่ในอัซคาบันเป็นเรื่องไม่ยุติธรรม ฉันไม่จำเป็นต้องชอบนายถึงขนาดที่คิดว่านายอาจได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
เลิกทำตัวงี่เง่าได้แล้ว ให้ฉันคุยกับทนายความของนายดีกว่า นายทำให้ฉันเสียเวลามาสามเดือนแล้ว ฉันไม่มีเวลาเหลือมากขนาดนั้น นายเองก็เช่นกัน
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
แต่ถ้าฉันให้เธอคุยกับทนายความของฉัน เธอก็จะหยุดเขียนจดหมายหาฉัน ถ้าเธอหยุดเขียนจดหมาย ฉันก็จะไม่ได้รับจดหมายใดๆอีกเลย ปรากฏว่าฉันชอบได้รับจดหมาย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นจดหมายจากเธอก็ตาม
เป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี ฉันมาถึงจุดที่เริ่มตั้งตารอที่จะอ่านข้อความสาธยายยาวยืดและโดนรบกวนจากเธอจากระยะไกล
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
นายพึ่งจะบอกให้ฉันหยุดรบกวนนาย แล้วไหงตอนนี้นายกลับอยากให้ฉันเขียนต่อ สรุปนายต้องการอะไรกันแน่?
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
ได้ เอาล่ะ มาคอยรบกวนฉันหน่อย ฉันชอบได้รับจดหมาย แต่ไม่มีใครส่งมาเลย
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
ถ้าฉันเขียนจดหมายถึงนาย นายจะยอมให้ฉันคุยกับทนายความของนายใช่ไหม?
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
ใช่.
แต่เธอจะต้องไม่พูดถึงเรื่องคดีของฉัน มันน่าเบื่อ เธอต้องหาเรื่องอื่นมาเขียนแล้วล่ะ
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
ยอดเยี่ยม ฉันพึ่งได้คุยกับเขาเมื่อเช้านี้ ขอบคุณ
ตอนนี้เราจะพูดคุยอะไรกันดีในเมื่อนายไม่ยอมพูดถึงหัวข้อหลักของฉันแล้ว?
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
ฉันไม่รู้เรื่องสภาพอากาศเลยด้วยซ้ำ ฉันคิดว่าที่นี่เหมือนมีฝนตกอยู่ตลอดเวลา มันอาจจะถูกสาปให้ดูน่าอนาถอย่างนี้ก็ได้ และก็หนาวด้วย
คิดอะไรสักอย่างมาเล่าหน่อยสิ เธอไม่ใช่คนที่อยู่ในอัซคาบัน พยายามอย่าทำท่าทางเป็นเด็กเรียนใส่ฉันนะ อย่ามาอ้างข้อมูลหรือสถิติต่างๆ ลองเขียนอะไรที่สร้างสรรค์หน่อย
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
โอเค ก่อนอื่นเลย นายพูดถูกเกี่ยวกับสภาพอากาศในอัซคาบัน ฉันเคยไปที่นั่นหลายครั้งในทุกฤดู และทุกครั้งก็หนาวและเปียกชื้นเสมอ ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะออกบนแผ่นดินใหญ่ก็ตาม
ตอนนี้เป็นเดือนธันวาคม คริสต์มาสใกล้เข้ามาแล้ว ฉันยังไม่ได้ซื้อของขวัญให้เพื่อนครึ่งหนึ่งของฉันเลย และปีนี้ฉันก็ไม่ได้ตั้งตารอเทศกาลนี้เท่าไร เพราะฉันกับรอนเลิกกันไปตั้งแต่กันยายน แต่ครอบครัวของเขาก็ยังยืนกรานว่าวันหยุดไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง และพวกเขาก็รู้ว่าฉันไม่มีที่ดีๆไปเลย ดังนั้นฉันจึงคิดไม่ออกว่าจะไปที่อื่นได้ และถ้าฉันนั่งอยู่บ้านในวันคริสต์มาส พวกเขาคงจะส่งชาร์ลีกับมังกรมาพาตัวฉันไปที่เดอะเบอร์โรว์ด้วยตัวเอง ดังนั้นฉันต้องไปทานอาหารเย็นคริสต์มาสกับแฟนเก่าของฉัน มันคงจะทั้งดีและแย่ในเวลาเดียวกัน
อีกอย่างนะ ฉันกำลังพยายามเรียนวาดรูป เพราะถูกบอกมาหลายครั้งแล้วว่าฉันต้องหาทางระบายความคิดสร้างสรรค์ ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันคงวาดได้ดีขึ้นแล้ว
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
เอางี้นะ น้ำหมึกทั้งโลกคงไม่พอให้ฉันเน้นย้ำสิ่งที่ฉันจะพูดต่อไปนี้ ดังนั้นโปรดใช้จินตนาการของเธอเอง :
เมื่อฉันบอกว่าให้หาเรื่องอะไรบางอย่างมาเขียน ฉันไม่ได้หมายความว่าเธอจะต้องเล่าเรื่องของครอบครัววีสลีย์ ให้ฉันฟัง
ไหนวาดรูปให้ดูหน่อยสิ
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
เธอบอกให้ฉันหาเรื่องมาเขียน ดังนั้นฉันก็หามาให้แล้ว
ฉันวาดบางอย่างให้นายตามที่นายขอ ไม่ได้จะอวดหรอกนะ แต่บนโต๊ะที่ทำงานฉันมีลูกสนิสจากชัยชนะของจินนี่ในการแข่งกับไอร์แลนด์เมื่อปีที่แล้ว ฉันชอบรายละเอียดของมันนะ แม้ว่าการจะเห็นมันชัดๆ ต้องมองภายใต้แสงอาทิตย์เท่านั้น
เอาจริงๆ ฉันไม่ใช่แฟนตัวยงของควิดดิช แต่เรื่องนี้ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของบทสนทนาดีๆได้ ฉันพอจะรู้กฎและตำแหน่งผู้เล่นอยู่บ้าง เพราะเพื่อนๆ ของฉันล้วนแต่เป็นพวกคลั่งควิดดิชกันทั้งนั้น
ถ้าฉันวาดไม่สวยเท่าที่นายหวัง ฉันยินดีรับคำวิจารณ์นะ
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ แล้วฤดูการนี้ใครขึ้นนำอยู่?
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
แน่นอนอยู่แล้วว่าเป็นพวกฮาร์ปี้
นายรู้ใช่ไหมว่านายสามารถเขียนตอบได้มากกว่าหนึ่งประโยค?
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
ฉันรู้ แต่ฉันต้องทำไหม?
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
คริสต์มาสแย่มากอย่างที่คิด
มอลลี่ วีสลีย์คงจะหวังดี แต่บางครั้งเธอก็ยุ่งวุ่นวายเกินไป ผู้หญิงคนนั้นเอากิ่งไม้มิสเซิลโทมาโบกเหนือหัวฉันตลอดเวลาที่รอนเดินผ่านมา และถ้าหากไม่ติดว่าเธอทำอะไรชักช้าเกินไป ฉันคงติดอยู่ใต้กิ่งไม้นั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนต้องถูกบังคับให้จูบ มันน่าหงุดหงิดจริงๆ
อย่างไรก็ตาม แฮร์รี่ขอจินนี่แต่งงานแล้ว ดังนั้นทุกอย่างก็ไม่ได้แย่ไปซะหมดเพราะหลังจากนั้น มอลลี่ก็ปล่อยให้ฉันได้อยู่คนเดียวสักทีจนถึงเวลากลับบ้าน และฉันดันไปได้ยินเรื่องที่รอนจะขอโอกาสครั้งที่สอง เหมือนกับว่าฉันทิ้งเขาไปหลังจากไม่ได้ให้โอกาสเขาจริงๆ อย่างนั้นแหละ ทั้งที่ฉันให้โอกาสเขามาตั้งสี่ปีเต็มๆเลยนะ!
ฉันรู้ว่านายไม่อยากอ่านเรื่องของวีสลีย์ แต่น่าเสียดายจริงๆ เพราะตลอดทั้งสัปดาห์ฉันเจอแต่เรื่องพวกนี้ เขียนตอบกลับมามากกว่าหนึ่งประโยคได้ไหม? แล้วคราวหน้าฉันอาจจะคิดเรื่องอื่นมาเล่าให้นายฟัง
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
เธอคบกับไอ้โง่นั่นมาสี่ปีเลยเหรอ? อะไรวะเนี่ย
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
นายจริงจังไหมเนี่ย? นายกำลังกระตุ้นให้ฉันเขียนเรื่องเกี่ยวกับรอน วีสลีย์ มากขึ้นเหรอ? ถ้านายรู้สึกหงุดหงิดกับเรื่องนี้ โปรดจำไว้ว่านายเป็นคนขอ
ปีแรกของเราเริ่มต้นเมื่อปีที่แปดตอนกลับไปเรียนต่อที่ฮอกวอตส์ พวกเราคบกันและเดทกันตลอดเวลา เพราะยังไงเราก็อยู่ด้วยกันที่นั้นอยู่แล้ว เอาจริงๆฉันคิดว่านายน่าจะชอบปีที่แปด ฉันจำได้ว่าตอนนั้นนายยังคงเป็นคนที่น่ารำคาญและหยิ่งยโส แต่ผลการเรียนของนายก็ไล่เลี่ยกับฉันเสมอ เช่นเดียวกับพี่น้องตระกูลพาติลและไมเคิล คอร์เนอร์ อีกอย่างนายยังชอบแย่งโต๊ะของฉันในห้องสมุดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากเรียนจบรอนและจินนี่ได้เป็นนักกีฬาควิดดิช จินอยู่กับฮาร์ปี้ ส่วนรอนอยู่กับชัดลีย์ และนั่นเป็นความฝันของเขาเสมอมา ดังนั้นเขาจึงอยู่ในบรรยากาศที่ดีเป็นเวลาหนึ่งปีก่อนที่มันจะกลายเป็นเพียงงานของเขาและไม่ใช่ความฝันที่เป็นจริง ในขณะเดียวกัน ฉันได้ตำแหน่งที่แผนกบังคับใช้กฎหมายเวทมนตร์เพื่อให้ความช่วยเหลือมือปราบมาร
สองปีแรกมันค่อนข้างง่าย เราทั้งสองยังเด็ก กำลังมีความรัก และสนุกกับการทำงาน แต่ไม่นานฉันก็เริ่มผิดหวังกับงานของตัวเองในแผนกบังคับใช้กฎหมายเวทมนตร์ มันเต็มไปด้วยคนที่สร้างความแตกแยกและพร้อมจะโยนใครสักคนเข้าไปในอัซคาบัน มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ากลับไปสู่ความแตกแยกก่อนสงครามยังไงยังงั้น เหมือนกับว่าเราไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยจากสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสงคราม ดังนั้นฉันเลยตัดสินใจลาออกและได้งานที่นี่ที่ สหภาพการปฏิรูปการคุมขัง (Incarceration Reform Union) นายคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อฉันบอกรอนไปว่าฉันกำลังจะย้ายไปอเมริกาใต้เพื่อเป็นชาวนาเลี้ยงลามะ เราเริ่มทะเลาะกันตลอดเวลาเลย ว่าทำไมฉันถึง "สนับสนุนผู้เสพความตาย" และ "พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่ที่พวกเขาควรอยู่" พร้อมเรื่องไร้สาระอื่นๆ มากมายที่พยายามจะบอกว่าเนื้อแท้ของพวกนายทั้งหมดนั้นชั่วร้ายแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม มันเริ่มตึงเครียดมากขึ้นหลังจากที่ฉันรับผิดชอบคดีของคนที่เราเคยเรียนที่ฮอกวอตส์ด้วยกัน สิ่งที่เขาพูดก็เริ่มเป็นอารมณ์ส่วนตัวมากขึ้น ตอนแรกมันแค่เกี่ยวกับงาน เกี่ยวกับอาชีพ ว่าทำไมฉันถึงทำงานให้กับองค์กรแบบนี้ แต่เมื่อฉันช่วยเอเดรียน พิวซีย์ จนได้รับการปล่อยตัว (แน่นอนว่านั้นคือชัยชนะครั้งแรกของฉัน) แทนที่เขาจะฉลองให้กับการทำงานหนักของฉันและสนับสนุนฉัน เขากลับนอนบนโซฟาและบอกฉันว่าเขาคงนอนร่วมเตียงเดียวกันกับ "ผู้สมรู้ร่วมคิด" ไม่ได้ ฉันบอกให้เขาย้ายออกจากอพาร์ตเมนต์ก่อนที่ฉันจะกลับมาจากที่ทำงานวันถัดไป และแน่นอนว่าเมื่อฉันกลับถึงบ้าน เขาก็ขนของออกไปหมดแล้ว นั่นคือจุดจบของเรา
ฉันยังไม่มีโอกาสได้บอกเขาด้วยซ้ำว่าฉันเสนอตัวที่จะรับคดีของนายซึ่งนั้นอาจจะทำให้เขาล้มป่วยไปได้เลยนะ
เอาล่ะ นั่นแหละคือจุดจบของเรื่องนี้ ตอนนี้เขากลับไปอยู่กับแม่แล้วเพราะเขากำลังรอดูว่าจะมีการทำสัญญาต่อไหมหรือจะถูกโยกย้ายไปทีมอื่น แฮร์รี่คิดว่าพวกเขาจะต่อสัญญาแต่จินแน่ใจว่าเขาจะถูกย้าย ชัดลีย์เล่นแย่มากนะ ฉันไม่เข้าใจว่ามันสำคัญยังไง
ขอให้สนุกกับจดหมายยาวๆ ของนายเกี่ยวกับรอน วีสลีย์ นายขอเองนะ
- เอช.จี
***
แกรนเจอร์,
วีสลีย์มันงี่เง่าจริงๆ ฉันขอให้มันถูกย้ายไปทีมอื่น เพราะเธอบอกว่านั้นเป็นงานในฝันของเขา ฉันจะดีใจมากถ้ามันเกิดขึ้น
ส่วนเรื่องโต๊ะ เธอชอบจองโต๊ะดี ๆ ในห้องสมุดอยู่แล้ว ฉันก็แค่พยายามแย่งมันกลับมาเอง สุดท้ายก็ได้มันคืนมาในปีที่เจ็ดตอนที่เธอหายตัวไป โต๊ะดี ๆ แสงสวย ๆ ฉันก็คิดถึงโต๊ะตัวนั้นเหมือนกันนะ มันเป็นโต๊ะที่เพอร์เฟ็กต์เลย ฉันเดาว่าเธอคงได้มันคืนในปีที่แปดใช่ไหม?
ครั้งหนึ่งฉันเคยอยากเป็นนักกีฬาควิดดิชมืออาชีพ บางทีถ้าฉันมีชีวิตที่มีความสุขและจัดการอะไรๆได้สมดุลกว่านี้ ฉันอาจจะลงเล่นให้กับทีมฟัลมัธ
- ดี.เอ็ม
***
มัลฟอย,
ฟัลมัธเนี่ยนะ?
ปีนี้พวกเขาได้ผู้เล่นตำแหน่งบีตเตอร์คู่ใหม่ที่แทบจะส่งใครบางคนไปเซนต์มังโกทุกแมตช์ มีเพียงสองแมตส์ที่หลุดรอดไปได้ บอกได้เลยว่านั้นดูป่าเถื่อนมาก ถ้าถามฉัน
เรื่องโต๊ะนั้น ฉันได้พื้นที่โต๊ะที่ไม่มีโต๊ะไหนเทียบได้กลับคืนมาในปีที่แปดจริงๆ
- เฮอร์ไมโอนี่
***
คนในห้องขังฝั่งตรงข้ามกับฉันเสียชีวิตเมื่อคืนนี้ เขาแขวนคอตัวเองด้วยอะไรบาง ฉันไม่รู้ว่าเขาทำได้ยังไง เพราะในห้องขังของฉันไม่มีอะไรที่พอจะรับน้ำหนักตัวฉันได้เลย ฉันได้ยินเสียงสำลักที่ทั้งแผ่วเบาและน่าสยดสยอง มันดังอยู่พักหนึ่งจนกระทั่งเงียบไป จากนั้นผู้คุมก็เดินเข้ามา พวกเขายืนมองอยู่แบบนั้นโดยไม่ทำอะไรเลย เป็นเพราะเราเป็นผู้เสพความตายจึงไม่สมควรได้รับความช่วยเหลืองั้นเหรอ? พวกเราไม่สมควรแม้แต่จะมีชีวิตอยู่อย่างนั้นใช่ไหม?
ฉันไม่อยากตาย...